วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

สิว

ยาสำหรับรักษาสิว

ยารักษาสิวมีทั้งชนิดทาภายนอกและชนิดรับประทาน สิวชนิดไม่รุนแรงหรือไม่มีการอักเสบมักจะใช้ยาทาภายนอก อาจจะใช้ชนิดหนึ่งหรือหลายชนิดร่วมกัน ยารักษาสิวมักจะทำให้อาการดีขึ้นแต่ไม่หายขาด ยาที่ใช้รักษามีดังนี้

lสบู่และน้ำ

การใช้สบู่อ่อนหรือสบู่ที่เป็นกลางหรือสบู่สำหรับใช้กับเด็กล้างด้วยน้ำสะอาดวันละ 2-3 ครั้งอย่าให้มากกว่านี้เพราะจะทำให้แห้งไปและอาจจะเกิดปัญหากับผิวหนังได้ สบู่ที่ใช้ไม่ควรจะเป็นด่างมากเกินไป และไม่ควรที่จะถูแรงๆเพราะจะทำให้ผิวหนังพกช้ำและเกิดปัญหา

Benzoyl peroxide

เป็นชนิดครีมหรือเจล 2.5% 5% 10% เมื่อทายาไว้บนผิวหนังปริมาณเชื้อและไขมันบนผิวหนังจะลดลง ยานี้จะมีระคายเคืองต่อผิวหนังจะทำให้ผิวหนังลอกหลุดเร็วขึ้น ทำให้ปริมาณหัวสิวลดลง ในระยะแรกของการใช้ยาอาจจะทำให้ผิวหนังแดงอักเสบจึงควรจะเริ่มใช้ยาในขนาดความเข็มข้นต่ำๆ ทาระยะเวลาสั้นเช่น 5-10 นาที แล้วล้างออก เมื่อผิวหนังทนต่อยาจึงเพิ่มความเข้มข้น และทาไว้นานขึ้นจนไม่ต้องล้างออก ทาวันละ 2 ครั้งเมื่อทาตามบริเวณลำตัวอาจจะทำให้สีเสื้อจางลง

salicylic acid

กรดนี้จะช่วยละลายขุยทำให้สิ่งสกปรกหลุดออก แต่จะไม่ช่วยในการลดการสร้างไขมัน ยานี้จะต้องใช้อย่างต่อเนื่องเมื่อหยุดยาก็จะกลับเป็นใหม่

Sulfer

เป็นยาที่ใช้กันมาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยมากต้องผสมกับสารชนิดอื่น เช่น alcohol,salicylic acid,resorcinol ยาชนิดนี้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่ยาทาส่วนใหญ่ก็มีตัวยานี้ผสม

สำหรับสมุนไพรหรือสารธรรมชาติก็ยังไม่มีหลักฐานว่าได้ผลสำหรับยาที่ควรจะปรึกษาแพทย์ไม่ควรจะซื้อยาเองได้แก่

ยาทา

ยาทาที่เป็นปฏิชีวนะ

* Azelaic acid ยานี้จะลดประชากรของเชื้อ Propionibacterium และละลายขุย ยานี้ทำเป็นรูปครีม อาจจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือน
* erythromycin solution 1-4% ออกฤทธิ์โดยการต้านเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ เมื่อใช้ร่วมกับ Bebzoyl peroxide จะทำให้ได้ผลดี
* Clindamycin phosphate solution 1%
* Tetracyclin เป็นยาทาตัวแรกๆที่ได้มีการนำมาใช้ทาเพื่อรักษาสิว แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมลดลงเนื่องจากผลข้างเคียงของยา
* Sulfonamide ทำเป็นรูปสารละลายซึ่งยังมีการใช้ยาชนิดนี้อยู่

ยาทาชนิดอื่น

* อนุพันธ์ของกรดวิตามินเอTretinoin เป็นยารักษาสิวที่ให้ผลค่อนข้างดีชนิดยาทาภายนอน ยาตัวนี้เป็นยาละลายขุยซึ่งทำเป็นรูปครีมหรือเจลความเข้มข้น 0.01-0.1% ยานี้จะมีอาการระคายเคืองต่อผิวหนังทำให้ผิวหนังแดง แห้ง ลอกเป็นขุยดังนั้นจึงต้องทายาในขนาดความเข้มข้นต่ำๆ เมื่อใช้ร่วมกับ Benzoyl peroxide ให้ใช้ Benzoyl peroxide ทาในตอนเช้า ส่วนวิตามินเอให้ทาก่อนนอน
* Adapalene เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ มีผลข้างเคียงเหมือนอนุพันธ์วิตามินเอ
* Tazarotene เป็นสารสังเคราะห์วิตามินเอ

ยารับประทาน

ยาปฏิชีวนะ

* Tetracyclin เป็นยาที่ใช้รักษาสิวตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมักจะให้ในรายที่ผู้ป่วยเป็นสิว ค่อนข้างมากตั้งแต่สิวที่เป็นหนอง โดยเริ่มต้น 500-1000 มิลิกรัมต่อวัน เมื่อดีขึ้นจึงลดขนาดของยาลง และอาจจะต้องให้ยาในขนาดต่ำเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ไม่ควรให้ยานี้ในเด็กและคนท้อง
* Erythromycin สำหรับผู้ที่ใช้ tetracyclin ไม่ได้เช่น เด็ก คนท้อง คนที่แพ้ยา tetracyclin
* Minocycline Doxycycline เป็นยาสังเคราะกลุ่ม tetracycline ห้ามใช้ในคนท้อง

ฮอร์โมน

* estrogen เป็นฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ต้านฮอร์โมนแอนโดรเจนทำให้มีการสร้างไขมันลดลง แต่การใช้ต้องระวังผลข้างเคียงเช่นมะเร็งเต้านม
* ยาคุมกำเนิด นิยมใช้รักษาสิวมากกว่า estrogen เดี่ี่ยวๆเนื่องจากผลข้างเคียงต่ำกว่า อาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน คัดเต้านม การใช้ยาคุมเมื่อการรักษาวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล

Steroid

จะใช้ในกรณีที่เป็นสิวมาก ควรจะใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เพราะหากใช้ในระยะเวลานานจะเกิดโรคแทรกซ้อน

Isotretinoin

เป็นยาที่ใช้ได้ผลสำหรับสิวที่ดื้อต่อยาหรือการรักษา เหมาะสำหรับสิวหัวช้าง cystic acne ยาชนิดรับประทาน Isotretinoin ใช้รักษาสิวชนิดดื้อต่อการรักษาชนิดอื่น ยานี้จะทำให้ไขมันและเชื้อลดลงจึงไม่เกิดสิว ยานี้มีผลข้างเคียงมากจึงไม่แนะนำให้ซื้อรับประทานเอง ผลข้างเคียงที่พบได้คือปากแห้ง ผิวแห้งแตก ผมร่วงปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ สำหรับคนท้องก็อาจจะทำให้เด็กเกิดมาพิการและแท้ง ผลข้างเคียงอื่นๆที่พบได้แก่ คลื่นไส้อาเจียนปวดข้อปวดกระดูก ปวดหัว การใช้ยานี้ต้องคุมกำเนิด และหากต้องการตั้งท้องต้องหยุดยานี้ 1 เดือน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น